ครั้งหนึ่งมีเด็กชายคนหนึ่งอยากได้สุนัข พ่อแม่ของเขายากจนและไม่สามารถซื้อให้เขาได้ หลังจากที่เขาขอร้องซ้ำแล้วซ้ำอีก แม่ของเขาจึงตัดสินใจให้เงินเขาหนึ่งร้อยบาท และบอกว่านี่คือเงินทั้งหมดที่เธอมี เด็กชายเดินไปที่ร้านและเห็นลูกสุนัขเล็ก ๆ ที่น่ารัก เขาเดินเข้าไปในร้านและถามเจ้าของว่าสุนัขราคาเท่าไร เจ้าของบอกว่าราคาหนึ่งพันบาท เด็กชายรู้สึกผิดหวังและกลับบ้านด้วยความเศร้า แต่เขาไม่สามารถหยุดคิดถึงลูกสุนัขสวย ๆ ที่เขาเห็นได้
สองสามวันต่อมา เขากลับไปที่ร้านและถามเจ้าของว่าสามารถลดราคาลงได้หรือไม่เนื่องจากเขามีเงินเพียงหนึ่งร้อยบาท เจ้าของบอกว่าในราคานี้เขามีลูกสุนัขเล็ก ๆ ที่พิการและเดินแทบไม่ได้ เด็กชายบอกว่าเขาอยากดูสุนัขตัวนี้ เจ้าของนำสุนัขมาให้ดู มันเล็กมาก ขาหลังทั้งสองข้างเล็กกว่าปกติ และเดินแทบไม่ได้ เด็กชายซื้อสุนัขตัวนี้ทันที เจ้าของถามว่า "ทำไมคุณถึงซื้อมัน ทั้งที่มันจะไม่เป็นปกติเลย" เด็กชายยกกางเกงขึ้นและแสดงให้เห็นเหล็กดัดที่เขาใส่ แล้วบอกกับเจ้าของว่า "ผมคิดว่าผมเข้าใจความรู้สึกของลูกสุนัขตัวนี้ได้ดีมาก เพราะผมก็พิการเหมือนกัน"
พระเยซูทรงถูกเรียกว่า "อิมมานูเอล" พระเจ้าผู้สถิตกับเรา พระเจ้าผู้ทรงรู้ถึงความหมายของความอ่อนแอ ความเปราะบาง ความทุพพลภาพ ความยากจน ความไม่มั่นคง และความกลัว พระเจ้าทรงรู้เพราะพระองค์ทรงกลายเป็นหนึ่งในพวกเราและแบ่งปันชีวิตของเรา
นี่คือเหตุผลว่าทำไมในพระวรสารของมัทธิวจึงกล่าวว่า "พระองค์ทรงรับเอาความอ่อนแอของเราไว้ และทรงแบกความเจ็บป่วยของเรา" (เทียบ มธ 8,17) นี่คือเหตุผลที่ผู้คนไม่ได้รู้สึกอับอายที่จะแสดงบาดแผลต่อพระเยซู เล่าให้พระองค์ฟังถึงความหิว และสารภาพบาปต่อพระองค์ พระเยซูทรงเข้าใจคนเช่น ศักเคียส ผู้ซึ่งถูกทุกคนปฏิเสธ หรือหญิงบาปที่ถูกจับได้ขณะล่วงประเวณี หรือกลุ่มคนโรคเรื้อนที่ไม่กล้าเข้าใกล้ใคร แต่ไม่กลัวพระเยซู หรือแม้แต่เพื่อนสนิทของพระองค์ที่กลัวการแบกกางเขนและหนีไปทิ้งพระองค์ให้แก่ศัตรู พระเยซูทรงเข้าใจความกลัวและความอ่อนแอของเรา ความหวัง และความเศร้าโศก เพราะพระองค์ทรงกลายเป็นหนึ่งในพวกเรา พระองค์คืออิมมานูเอล